วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ภูเขาไฟบาตูร์

ภูเขาไฟบาตูร์ (Batur) เกิดขึ้นหลังจากการยุบตัวของภูเขาไฟลูกใหญ่ แล้วก่อเกิดเป็นภูเขาไฟบาตูร์อยู่ตรงกลาง และมีทะเลสาบบาตูร์เกิดขึ้นใกล้ๆภูเขาไฟ ลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟรินจานี่ แต่ต่างกันตรงที่ภูเขาไฟบาตูร์ที่เกิดใหม่มีความสูงกว่าปากปล่องภูเขาไฟเดิมที่เกิดจากการยุบตัวลงไปของภูเขาไฟ จุดสูงสุดของภูเขาไฟบาตูร์คือ 1717 เมตร ทำให้เราเห็นวิว 360 องศาบนยอดภูเขาไฟรู้นี้ ภูเขาไฟลูกนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบาตูร์ เขต Kintamani


ราคาทัวร์ดูพระอาทิตย์บนภูเขาไฟบาตูร์ผ่านเอเยนต์ รวมรถไปรับไปส่งจากโรงแรม ค่าไกด์ ค่าอุทยาน อาหารเช้า และมีไฟฉายให้ยืม ตกประมาณ 50 USD ต่อคนในกรณีที่ไปตั้งแต่สองคนขึ้นไป แต่คิดว่าน่าจะหาได้ถูกกว่านี้หรือ เราอาจจะเช่ารถไปเองแล้วไปหาไกด์ที่ตีนเขาน่าจะถูกกว่าเยอะ โดยรถจะนัดเวลามารับแตกต่างกันไปขึ้นกับว่าโรงแรมเราอยู่บริเวณไหน ผมพักเมืองคูต้า(Kuta) ค่อนข้างไกลจากภูเขาไฟบาตูร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เลยต้องตื่นตั้งแต่ 1.30 AM รอรถมารับตอนตีสอง

เราเริ่มออกเดินประมาณตี 4 จากลานจอดรถใกล้ๆตีนเขา ช่วงแรกเป็นทางราบ มีสวนพริก มะเขือ ข้าวโพด หลังจากนั้นค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ ทางเริ่มเป็นหินมากขึ้น มีลื้นบางเป็นช่วงๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงไปถึงยอด ในรูปจะเห็นยอดเขาเล็กโผล่ออกมาจากก้อนเมฆทางด้านซ้าย นั้นคือยอดภูเขาไฟรินจานี่ ส่วนภูเขาทางด้านขวาคือภูเขาอะบัง(Abang) กับอะกุง(Agung)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
มานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ประหลาดใจ



วันนี้โชคดีมาก ท้องฟ้าสดใส แถมมีทะเลหมอกด้วย  




จากในรูปมีภูเขาลูกเล็กและลูกใหญ่ติดกัน ทั้งสองลูกคือภูเขาอะบัง ส่วนอะกุงคือภูเขาที่ดูเหมือนเป็นเงาของภูเขาลูกใหญ่ทางด้านขวา จากมุมนี้มันซ้อนกันเหมือนเป็นเงาพอดี เป้ะเวอร์ ส่วนที่ตีนภูเขาอะบังคือทะเลสาบบาตูร์


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น ไกด์เรียกผมเดินลงทางเดิมที่ขึ้นมา ดีนะที่ผมขอเดินไปถ่ายรูปบนปากปล่องภูเขาไฟอีกด้าน ไม่งั้นพลาดมุมนี้เลย...



วิวอีกด้านจะเป็นสันเขาเล็กๆ สลับไปมา งามมากครับ แนะนำว่าพอดูพระอาทิตย์ขอไกด์เดินลงทางปากปล่องภูเขาไฟอีกด้าน จะได้เก็บวิวครบ ^^ 

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

มาการองฝรั่งเศส


สูตรมาการอง “Macarons”แบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
สวัสดีคะ สำหรับคุณแม่บ้านหรือใครที่กำลังมองหาสูตรและวิธีการทำมาการอง วันนี้จะมาแนะนำสูตรพร้อมวิธีการทำมาการองแบบฝรั่งเศสกันคะ
ส่วนผสม มาการอง Macarons ฝรั่งเศส สูตรพื้นฐาน  คุณควรพยายามทำมาการอง Macarons สูตรพื้นฐานก่อน เมื่อเก่งแล้วจึงค่อยเริ่มทำสูตรอื่นๆที่หลากหลายคะ

สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย

ส่วนผสมสำหรับการทำมาการอง 30 ชิ้น
ไข่ขาว (จากไข่เบอร์0) 3 ฟอง แยกไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงและเก็บไว้ในตู้เย็น
น้ำตาลไอซิ่ง 210 กรัม
อัลมอนด์มีด(บดละอียด) 125 กรัม
น้ำตาลทราย 30 กรัม
สีผสมอาหาร (สีเจล หรือสีฝุ่น)

สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย

อุปกรณ์ทำมาการอง
-ชามผสม
-ไม้พาย
-ตะแกรง
-เครื่องตีไข่
-ถุงบีบ , กรวยกระดาษ
-ถาด, กระดาษไข
วิธีการทำมาการอง
นำชามใบใหญ่สำหรับผสม ใส่อัลมอนด์บดละเอียดและน้ำตาลไอซิ่งลงไปผสมกัน ถ้าหากว่าอัลมอนด์ยังไม่ละเอียดแนะนำให้ร่อนเหมือนร่อนแป้งอะคะโดยร่อนผ่านตะแกรงก่อนสัก1-2ครั้ง (หรือใช้เครื่องปั่นก็ได้คะ)เมื่อคุณเห็นว่ามีเนื้อละเอียดเข้ากันดีแล้ว พักไว้ก่อนค่ะ

สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย

นำชาม(ใบใหม่) ใส่ไข่ขาวที่เราแยกเอาไว้ลงไป เราจะเริ่มตีไข่กันแล้วคะ ใช้ความเร็วปานกลาง ตีไข่ไปเรื่อยๆจนไข่ขาวกลายเป็นฟอง เมื่อเป็นฟองแล้ว ปรับความเร็วในการตีไข่ให้สูงขึ้น จากนั้นค่อยๆใส่น้ำตาลทรายลงไป ทีละ1-2 ช้อนชาจนหมด พอน้ำตาลทรายหมด ก็ตีส่วนผสมทั้งหมดต่อ 2-3 นาที จนไม่มีฟองไข่ ถ้ายังเป็นฟองไข่ก็ตีต่อไปอีกจนได้ลักษณะคล้ายๆครีม จากนั้นใส่สีผสมอาหารลงไปตามใจชอบคะ ใช้ไม้พายคนจนได้สีเป็นเนื้อเดียวกัน
สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
จากนั้นนำอัลมอนด์และน้าตาลไอซิ่งของเราที่ผสมไว้ก่อนแล้วในขั้นแรก มาใส่รวมลงไปคะ ค่อยๆใส่ไปทีละครึ่งนะคะ คนให้เข้ากันด้วยไม้พายคะ เมื่อเข้ากันดีแล้วเทส่วนผสมลงไปในถุงปีบคะ(หรือกรวยกระดาษก็ได้คะ ตามความถนัด)
สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย   สูตรกาทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
จากนั้นก็เตรียมถาดที่มีกระดาษไขคลุมไว้ แล้วบีบส่วนผสมออกมาให้ได้ขนาดใหญ่กว่าเหรียญสิบเล็กน้อยคะ พอบีบเสร็จกระแทกถาดเล็กน้อยคะ เพื่อให้ไดรูปทรงสวยงาม จากนั้นใส่เข้าเตาอบที่อุ่นทิ้งไว้จนได้อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮท์ อบไว้ 6 นาที แล้วสลับถาดบนให้ไปอยู่ล่างแล้วถาดบ่างมาอยู่บน อบต่ออีก 6-7 นาทีจนเสร็จคะ
สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย สูตรกาทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
ระหว่างรอให้เย็นเราก็มาทำส่วนที่เป็นไส้ขนมกันก่อนคะ สำหรับไส้ขนม นั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนะคะว่าจะทำไส้อะไรก็นำวัตถุดิบนั้นมาใช้ อย่างวันนี้เลือกทำกานาซช็อกโกแลต
ส่วมผสมสำหรับไส้มาการอง
-บัตเตอร์ครีม
-ดาร์ทช็อกโกแลต
ตั้งไฟปานกลาง เทครีมสดลงไป พอเริ่มร้อน ใส่ดาร์คช๊อคโกแล็ตหั่นลงไป พอช็อกโกแลตละลาย คุณก็จะได้ส่วนผสมเหลวๆ ปิดเตา ปล่อยให้เย็น พอจนเริ่มเหนียว นำไปใส่ถุงบีบหรือกรวยกระดาษก็ได้คะ จากนั้นก็บีบใส่ แล้วเอาอีกชิ้นมาประกบ ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการทำมากรองคะ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการแต่งหน้าตามใจชอบคะ

สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย
สูตรการทำมาการอง Macaronsแบบฝรั่งเศษ สูตรพื้นฐานอย่างง่าย

**การทำผิดสูตรอาจทำให้ได้ขนมออกมาไม่เป็นตามที่ต้องการ ฉะนั้นการทำตามสูตร และการชั่งตวงวัดที่ดีจึงมีผลในการทำเช่นกัน
วิธีทำตัวขนม(เมอแรง)

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562

10 งานเทศกาลและอีเว้นห้ามพลาดของประเทศฝรั่งเศส



Photo: Jean-Pierre Dalbéra [CC BY-SA 2.0] from flickr.com/photos/dalbera/4175210166/
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของฝรั่งเศสที่ทำให้หลายๆคนติดใจ ก็คงหนีไม่พ้นเทศกาลหรืองานอีเว้นท์ต่างๆที่มีให้ตื่นตาตื่นใจกันตลอดทั้งปี แถมบางงานยังยิ่งใหญ่จนดับไกลระดับโลกก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม งานประเพณีรื่นเริง และความบันเทิงด้านต่างๆ เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวปกติว่าดีงามแล้ว ยิ่งถ้าได้มาในช่วงเวลาของเทศกาลต่างๆจะยิ่งเพิ่มระดับความสนุกสนานและสิ่งพิเศษที่จะมีเฉพาะในช่วงนั้นๆ ทำให้กลับบ้านไปพร้อมกับความประทับใจไม่มากก็น้อย

1. เทศกาลเอพิพานี (Epiphanie)

Photo by Steph Gray le 15 janvier 2011 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Galette_des_rois_exemple.jpg [CC by-sa 3.0]
นับเป็นหนึ่งในเทศกาลทางศาสนาคริสต์ที่สำคัญมากที่สุด จัดขึ้นในวันทุกๆวันที่ 6 เดือนมกราคม โดยจะมีการนิยมทานขนม Galette des Rois หรือที่รู้จักกันในชื่อ ขนมพระราชา ของหวานท้องถิ่นที่มีลักษณะเป็นแป้งพัฟซ้อนทับๆกันคล้ายกับครัวซองค์แต่มีความละมุนกว่า มีไส้ทั้งอัลมอนด์แบบดั้งเดิม ผลไม้อบแห้งและ ช็อคโกแลต ด้านในจะมีตุ๊กตาตัวจิ๋วซ่อนไว้ ปกติจะขายคู่มากับมงกุฎกระดาษสีทอง เรียกได้ว่าถ้าใครได้มาเยือนฝรั่งเศสช่วงเดือนมกราคมก็จะเห็นร้านขนมต่างๆขายเจ้าขนมชนิดนี้แทบทุกร้าน


2. งานคาร์นิวัลแห่งเมืองนีซ (Carnival de Nice)

Photo by debs-eye photostream from commons.wikimedia.org/wiki/File:Carnaval_nice_corso_illuminé.jpg [CC by-sa 3.0]
งานคาร์นิวัลสุดยิ่งใหญ่อันดับต้นๆของโลกที่ไม่แพ้บราซิลหรืออิตาลี จัดขึ้นที่เมืองนีซในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ของทุกๆปี ระยะเวลาการจัดติดต่อกันถึง 2 สัปดาห์ โดยมีการจัดติดต่อกันเป็นเวลาเนิ่นนานมีจุดเริ่มต้นจากการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองของท่านเคาท์แห่งปรอแวนส์ (Count of Provence ) เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1294 มีขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่อลังการที่ตกแต่งอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศความสนุกสนานแบบสุดเหวี่ยง การันตีความฮอทปรอทแตกด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,000,000 คนต่อปี แล้วยังมีทีท่าจะจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ


3. เทศกาลวันกินเครป (La Chandeleur)

Photo by RitaE from pixabay.com/en/pancakes-crepe-pancake-süsspeise-2020863/ [CC by-sa 0.0]
เดิมทีเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเทพเจ้าในศาสนาคริสต์ จัดขึ้น วันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี สมัยก่อนจะมีการเดินขบวนโดยมีการถือคบเพลิงและสวดมนตร์ไปพร้อมๆกัน แต่ปัจจุบันไม่มีพิธีการแบบนั้นอีกแล้ว คงเหลือไว้แต่ความเชื่อเรื่องการทำเครปด้วยกรรมวิธีการทำแบบ coup de poêle ภายในวันนี้เพื่อความโชคดีที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ซึ่งภายในวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการทำเครปสไตล์ฝรั่งเศสให้เห็นตามร้านค้าและศูนย์การค้าทั่วทั้งฝรั่งเศส และคนจะนิยมทานเครปกันมากในช่วงเทศกาลนี้


4. เทศกาลอีสเตอร์ (Pâques)

Photo by И. Максим from commons.wikimedia.org/wiki/File:Pâques_orthodoxes_à_l%27église_Saint-Étienne_de_Strasbourg_(nef).jpg [CC by-sa 3.0]
เป็นช่วงวันหยุดสำหรับชาวศาสนาคริสต์นิกาย จะมีขึ้นในเดือนเมษายนของทุกๆปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่บรรยากาศโรแมนติกมากๆ ดอกไม้ออกดอกพลิใบแข่งกันผลิบาน ในช่วงนี้ตามร้านขนมหวานหรือ supermarket ต่างๆจะเต็มไปด้วยช็อคโกแลตหลากหลายรูปทรงที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นรูปไข่ที่แต่งแต้มด้วยสีสันสดใสและรูปกระต่ายตัวน้อยสุดมุ้งมิ้ง แต่ควรเช็กเรื่องเวลาเปิดทำการของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้ดีเพราะส่วนมากจะปิดเร็วหรือบางแห่งก็อาจไม่เปิดในช่วงนี้


5. งานแข่งขันเทนนิสประจำปี (French Tennis Open)

Photo by Yann Caradec from flickr.com/photos/10288162@N07/4647935867 [CC by-sa 3.0]
การแข่งขันเทนนิสคอร์ตดินรายการแกรนด์สแลมที่คอเทนนิสตัวจริงไม่ควรพลาด จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน ณ สนาม Roland Garros ในกรุงปารีส ที่จะได้ชื่นชมนักเทนนิสชื่อดังระดับโลกที่มาร่วมเข้าแข่งขันแบบสดๆ ที่สนุกกว่าดูทางจอทีวีเป็นไหนๆ พร้อมซึมซับบรรยากาศความลุ้นระทึกไปในทุกแมตการแข่งขัน


6. เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Le Festival de Cannes)

Photo from Festival de Cannes Official Facebook Page
เทศกาลภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก  จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคมที่เมืองคานส์ ถือได้ว่าเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่และมีอิทธิพลต่อวงการหนังทั่วโลกมากที่สุดงานหนึ่ง  โดยนอกจากจะได้ยลโฉมเหล่านักแสดงชื่อดังของทั้ง Holly woods และนักแสดงชื่อดังที่เข้าชิงรางวัลที่เดินเฉิดฉายมาบนพรหมแดง แล้วยังได้มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์สั้นนอกกระแสจากนานาประเทศอีกด้วย


7. เทศกาลสู้วัวกระทิง (Ferias de Nimes)

Photo from vimeo.com/actutoro
งานเทศกาลสู้วัวกระทิงสุดยิ่งใหญ่ที่เมืองนิมส์ จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกๆปี วัตถุประสงค์หลักๆเพื่อเป็นการยกย่องถึงความกล้าหาญของเหล่าวีรบุรุษนักสู้วัว ซึ่งการสู้วัวกระทิงนั้นจะจัดขึ้นในสนามกีฬาโบราณที่มีอัฒจันทร์สไตล์โรมันจุคนได้เป็นจำนวนมาก อารมณ์เสมือนหลุดเข้ามายังยุคโรมันเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกิจกรรมแสดงดนตรีพร้อมแสงสีเสียงเต็มพิกัดที่สร้างความครื้นเครงไปทั่วทุกท้องถนน


8. เทศกาลลาเวนเดอร์ที่โพรวองซ์ (Fête de la lavande)

Fête de la lavande
เทศกาลที่จะได้ชมความงามของดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มทุ่งจัดขึ้นเป็นประจำปีทุกปีช่วงเดือนกรกฎาคมในแคว้นโพรวองซ์ นอกจากความงดงามของดอกลาเวนเดอร์สีม่วงจัดๆแล้วนั้น ในแต่ละเมืองของแถบนี้ยังจะมีกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแสดงพื้นเมืองของคนท้องถิ่น การสาธิตขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากดอกลาเวนเดอร์ พร้อมเลือกชม เลือกชิม เลือกชอบสินค้า จากลาเวนเดอร์อีกมากมาย


9. งานเฉลิมฉลองแห่งชาติ (La Fête Nationale)

Photo by Yann Caradec from flickr.com/photos/la_bretagne_a_paris/9286717751/ [CC by-sa 3.0]
วันที่ระลึกที่มีความสำคัญต่อประวัติศสาสตร์ของฝรั่งเศสหรือที่รู้จักกันในชื่อ  วันบัสตีย์ (Bastille Day)จัดขึ้นในวันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปี ช่วงนี้จะเต็มไปด้วยความคึกคักของริ้วขบวนพาเรดที่ประดับประดาด้วยสีสันสดสวย ท่ามกลางการร้องเล่นเต้นรำตามทั่วทั้งบริเวณอย่างสนุกสนาน ตามท้องถนนถูกประดับประดาไปด้วยธงตรีกอลอร์ แถมมีการจุดพลุไฟช่วงกลางคืนแบบตระการตาให้ได้ชมกัน


10. เทศกาลวันคริตส์มาส (Noël)

Photo by Ville de Mulhouse from commons.wikimedia.org/wiki/File:Marche-noel-mulhouse.jpg [CC by-sa 3.0]
เทศกาลเฉลิมฉลองวันคริตส์ เริ่มมีการจัดกิจกรรมต่างๆตั้งแต่คืนวันที่ 24 ไปจนถึง วันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี โดยในจะมีบรรยากาศที่คึกครื้นของวันคริสมาสตร์ทั้งร้านค้า และสถานที่ต่างๆต่างมีการประดับประดาอย่างสวยงาม มีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ประดับไฟ บรรยากาศการจับจ่ายเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งยังมีตลาดคริสต์มาสแบบยุโรปแท้ๆให้ได้เดินเพลินๆพร้อมซื้อของกิน ของใช้น่ารักๆอีกเพียบ ท่ามกลางบรรยากาศที่ถือได้ว่าโรแมนติกสุดๆ โดยจะมีอาหารหลายๆอย่างจะมีให้ลองชิมกันเฉพาะช่วงคริสต์มาส อย่าง ทาร์ทีแฟลตต์ (Tartiflette) คล้ายๆกราแตง และ เค้กขอนไม้ (Buche de Noel)

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สนธิสัญญาไซเตส



อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (อังกฤษConvention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือเรียกโดยย่อว่า ไซเตส (CITES) และเป็นที่รู้จักในชื่อ อนุสัญญากรุงวอชิงตัน(Washington Convention) เป็นสนธิสัญญาซึ่งเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2518
ในปี พ.ศ. 2516 สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ได้จัดการประชุมนานาชาติขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อร่างอนุสัญญาดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมประชุม 88 ประเทศ แต่มีผู้ลงนามรับรองอนุสัญญาฉบับนี้ทันทีเพียง 22 ประเทศ สำหรับประเทศไทยได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมด้วย แต่มาลงนามรับรองอนุสัญญาในปี พ.ศ. 2518 และให้สัตยาบันในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2526 นับเป็นสมาชิกลำดับที่ 80 ปัจจุบัน ไซเตสมีภาคีทั้งสิ้น 181 รัฐ (ณ พฤษภาคม 2558)
เป้าหมายของไซเตส คือ การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือถูกคุกคาม ทำให้ปริมาณร่อยหรอจนอาจเป็นเหตุให้สูญพันธุ์ วิธีการอนุรักษ์กระทำโดยการสร้างเครือข่ายทั่วโลกในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ(International Trade) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่า และผลิตภัณฑ์ ไซเตสไม่ควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น (Native Species)
การค้าสัตว์ป่า พืชป่า และผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอนุญาต (Permit) ซึ่งสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาควบคุมจะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า (Import) ส่งออก (Export) นำผ่าน (Transit) และส่งกลับออกไป (Re-Export) โดยชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาควบคุม จะระบุไว้ในบัญชีหมายเลข 1, 2, 3 (Appendix I, II, III) ของอนุสัญญา โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้

- จุดประสงค์ของ CITES

การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชป่าในโลก เพื่อประโยชน์แห่งมวลมนุษย์ชาติโดยเน้นทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือมีการคุกคาม ทำให้มีปริมาณร่อยหรอจนอาจเป็นเหตุให้สูญพันธุ์ วิธีการอนุรักษ์ของ CITES ก็คือ การสร้างเครือข่ายทั่วโลกในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ ( International Trade ) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ควบคุมการค้าภายในประเทศ สำหรับชนิดพันธุ์อื่นๆ (Native Species)

หน้าที่ของสมาชิก CITES

1.สมาชิกต้องกำหนดมาตราการในการบังคับใช้อนุสัญญา CITES มิให้มีการค้าสัตว์ป่า พืชป่าที่ผิดระเบียบอนุสัญญาฯ โดยมีมาตรการลงโทษผู้ค้า ผู้ครอบครอง ริบของกลางและส่งของกลางกลับแหล่งกำเนิด กรณีที่ทราบถึงถิ่นกำเนิด
            2. ต้องตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่าระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า พืชป่า และการขนส่งที่ปลอดภัยตามระเบียบอนุสัญญา CITES
            3.ต้องส่งรายงานประจำปี ( Annual Report ) เกี่ยวกับสถิติการค้าสัตว์ป่า พืชป่าของประเทศตนแกสำนักงานเลขาธิการ CITES
            4. ต้องจัดตั้งคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการ ( Management Authority ) และคณะทำงานฝ่ายวิทยาการ ( Scientific Authority )  ประจำประเทศ เพื่อควบคุมการค้าสัตว์ป่า พืชป่า
             5. มีสิทธิ์เสนอขอเปลี่ยนแปลงชนิดพันธุ์ในบัญชี Appendix I-II-III ให้ภาคีพิจารณา

- ระบบการควบคุมของ CITES

การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศจะถูกควบคุมโดยระบบใบอนุญาต ( Permit ) ซึ่งหมายถึงว่า สัตว์ป่าและพืชป่าที่ CITES ควบคุมต้องมีใบอนุญาตในการ
1. นำเข้า ( Import )
2. ส่งออก ( Export )
3. นำผ่าน ( Transit )
4. ส่งกลับออกไป ( Re-export )


ภูเขาไฟบาตูร์

ภูเขาไฟบาตูร์ (Batur) เกิดขึ้นหลังจากการยุบตัวของภูเขาไฟลูกใหญ่ แล้วก่อเกิดเป็นภูเขาไฟบาตูร์อยู่ตรงกลาง และมีทะเลสาบบาตูร์เกิดขึ้นใกล้ๆภูเขา...