โครงงานขนมครกเเฟนซี
บทคัดย่อ
การจัดทำโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการศึกษาประวัติความเป็นมาของขนมไทย เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการทำขนมไทย และต้องการที่จะสืบสาน อนุรักษ์ขนมไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น คณะผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอนที่ได้วางแผนเอาไว้ และได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานโดยการนำเสนอสื่อวีดีทัศน์ผ่านในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
บทที่1 บทนำ
ที่มาเเละความสำคัญ
ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น ต้นว่างานทำบุญ เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญเพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงามขนมไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมขนมไทยที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า) หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา ซึ่งส่วนประกอบของขนมส่วนมาก คือ แป้ง น้ำตาล กระทิ ไม่มีความหลากหลาย ขนมครกแฟนซีจึงเป็นขนมไทยมีพัฒนาต่อยอดทางความคิดให้มีสีสัน ประโยชน์ทางคุณค่าอาหารมากขึ้น ด้วยการนำส่วนผสมที่หาได้จากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมในการทำให้มีสีสันสวยงาม เป็นการเล็งเห็นคุนค่าทางอาหารและสืบสานวัฒนธรรมไทย ด้วยเหตุนี้คณะผู้จัดทำจึงจัดทำโครงการ “ขนมครกแฟนซี” ขึ้นเพื่ออนุรักษ์ขนมไทยและฝึกความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มคุณค่าและคุณประโยชน์ให้กับขนมไทย สร้างความแตกต่างส่งเสริมสนับสนุนขนมไทยและยังสามารถต่อความคิดเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต
บทที่2 หลักการเเละทฤษฎี
ขนมครก เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งน้ำตาลและกะทิ แล้วเทลงบนเตาหลุม เวลาจะรับประทานต้องแคะออกมา เป็นแผ่นวงกลม แล้วมักวางประกบกันตอนรับประทาน เป็นขนมของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้ยังพบในพม่า ลาว และอินโดนีเซีย
บทที่3 ขั้นตอนการดำเนินงาน
3.1ขั้นตอนการดำเนินงาน
1. ศึกษาวิธีการทำขนมเเฟนตาซี
3.2 วัสดุอุปกรณ์
1.วัสดุในการค้นคว้า
1.1 คอมพิวเตอร์
1.2 อินเทอร์เน็ต
2. วัสดุอุปกรณ์ในการทำโครงงาน
2.1ถ้วยหรือชามผสม
2.2ตะกร้อมือ
2.3ถาดขนมครก
2.4ช้อน
2.5ไม้พาย
2.6เเก้วตรวง
3.วัตถุดิบในการทำ
1.แป้งข้าวเจ้าตราชัางสามเศียร 400 กรัม
2. แป้งข้าวเหนียวตราช้างสามเศียร 50 กรัม
3. น้ำกะทิ 3 ถ้วย
4. น้ำร้อนจัด 4 ถ้วย
สูตร...หน้าขนมครก ..
1. หัวกะทิ 3 ถ้วย
2.น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
3.กลือ 2 ช้อนชา
3.3ขั้นตอนการดำเนินงานขนมครกเเฟนตาซี
วิธีทำ

วิธีทำหน้าขนมครก
เทหัวกะทิ น้ำตาลเเละเกลือใส่อ่งผสม คนส่วนผสมทุกอย่าง... ให้ละลายเข้ากัน.. เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
นำถาดขนมครก ยกขึ้นตั้งไฟค่ะ เปิดไฟอ่อน ๆ นะคะ ใช้น้ำมันใหม่ ๆ ขอย้ำ..ต้องน้ำมัน ใหม่ ๆ นะคะ เช็ดให้ทั่วทุกหลุมขนมครกเลยค่ะ
ดูซิคะ เอาไว้โรย หน้าขนมครกค่ะ มีฝอยทอง เผือก ข้าวโพด ต้นหอม ..
พอถาด ขนมครก เริ่มร้อน... สังเกตว่ามีควันขึ้นเล็กน้อย... ตักแป้งตัวขนมครก หยอดได้เลย
หยอดไปได้ สัก 6-7 หลุม ต้องรีบกลับมาหยอดหน้าขนมค่ะ
เรามาโรยหน้าขนมครกกันเลยค่ะ เมื่อโรยหน้า ขนมตรบแล้ว.. ปิดฝา
มาเปิดฝา ขนมครก กันค่ะ ยกจานมาค่ะ จะ..แคะ..ขนมครกแล้ว
และนี่ก็คือ ขนมครกสวย ๆ สำหรับทุกคน ลองไปทำกันดูนะจ๊ะ
บทที่4 ผลการศึกษา
จากการได้ทำโครงงานเรื่องขนมครกแฟนซีขึ้นมาพบว่า จะต้องใช้ไฟอ่อนจนถึงปานกลางถ้าใชไฟที่แรงเกินไปจะทำให้ตัวขนมไหม้ได้ส่วนการใส่ตัวหน้าขนมนั้น ควรไส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่งั้นขนมครกอาจจะไหม้เเละเละได้
บทที่5 สรุปผลเเละข้อเสนอเเนะ
การจัดทำโครงงานis เรื่องขนมไทยสามารถสรุปผลการดำเนินงานโครงงานและข้อเสนอแนะได้ดังนี้
5.1. การดำเนินงานจัดทำโครงงาน
5.1.1. วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อต้องการศึกษาประวัติความเป็นมาของขนมไทย
2. เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการทำขนมไทย
3. เพื่อต้องการสืบสานและอนุรักษ์ขนมไทยให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขั้น
5.1.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาโครงงาน
1. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2. blogspot.com
- โปรแกรม google เอกสาร
5.2 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
การดำเนินงานโครงงานนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ คือเพื่อต้องการศึกษาประวัติความเป็นมาของขนมไทย เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการทำขนมไทยและต้องการสืบสานและอนุรักษ์ขนมไทยให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เป็นสื่อเพื่อการศึกษาที่มีทั้งภาพและสร้างความสนใจช่วยพัฒนาให้ความรู้ของผู้ชม มีความเข้าใจ เห็นความสำคัญของขนมไทย สื่อเรื่องขนมครกแฟนซี จึงเป็นสื่อที่มีประโยชน์ เป็นการนำซอฟแวร์มาพัฒนาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานฉบับนี้สำเร็จได้ด้วยความกรุณาของอาจารย์ เกรียงไกร ทองชื่นจิต โรงเรียนราชินีบูรณะซึ่งได้ให้คำปรึกษา ข้อชี้แนะ และความช่วยเหลือจนกระทั่งโครงงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทำขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ปรึกษา ที่ให้ความกรุณาในการแก้ไขปัญหา ข้อบกพร่องต่างๆของโครงงาน และให้ความรู้ ให้คำแนะนำ ทั้งให้กำลังใจ
เอกสารอ้างอิง
ประวัติขนมไทย.สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 จากเว็บไซต์:
http//:www.ezythaicooking.com/thai_dessert_recipes.html
วิธีการทำขนมครกสืบค้นเมื่อ วันที่ 20กันยายน 2561 จากเว็บไซต์:
http//:www.pim.in.th/thai-dessert